top of page

การรักษารากฟัน

(Root Canal Treatment)

การรักษารากฟัน คือขบวนการกําจัดเนื้อเยื่อในโพรงฟันและคลองรากฟันที่มีการติดเชื้อ และอักเสบ ร่วมกับการทําความสะอาดในคลองรากฟันให้ ปราศจากเชื้อโรค จากนั้นจึงอุดคลองรากฟันและบูรณะตัวฟันเพื่อความแข็งแรงและสวยงามให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ

ราก 1.jpeg

การรักษารากฟัน คืออะไร ?

การรักษารากฟัน ( Root canal treatment ) คือ ขบวนการกำจัดเชื้อจุลชีพที่อยู่ในโพรงประสาทฟัน หรือเนื้อเยื่อขนาดเล็ก ที่อยู่ใจกลางฟัน อันเป็นเหตุให้เกิดการติดเชื้อ อักเสบ ของโพรงเนื้อเยื่อในโพรงประสาทฟัน หากโพรงประสาทฟันบางส่วนถูกทำลายจะต้องทำการเอาออกเพื่อรักษาและทำความสะอาดส่วนที่เหลือให้ปราศจากเชื้อโรค และทำการซ่อมแซม อุดคลองรากฟันและบูรณะตัวฟัน เพื่อคืนความแข็งแรงและสวยงาม ให้ฟันกลับมาใช้งานได้ตามปกติ การรักษารากฟัน เป็นวิธีที่ช่วยให้คุณไม่จำเป็นต้องถอนฟันออกไป ซึ่งเป็นวิธีการที่สามารถช่วยรักษาฟันไว้ได้

โพรงประสาทฟัน คืออะไร ?

โพรงประสาทฟัน คือชั้นที่อยู่ด้านในสุดของฟัน ที่ประกอบด้วย เส้นประสาทของฟัน เส้นเลือดที่มาเลี้ยง รวมถึงท่อน้ำเหลือง ทำให้เมื่อมีฟันผุลุกลามมาในชั้นโพรงประสาทฟัน จึงทำให้เกิดการอาการปวดฟันที่ค่อนข้างรุนแรง ซึ่งถ้ามีการติดเชื้อลุกลามมากขึ้น เชื้อโรคจะกระจายลงสู่ปลายรากฟัน และทำให้รากฟันอักเสบ

การรักษารากฟันแตกต่างจากการถอนฟันอย่างไร

การรักษารากฟันสามารถเก็บรักษาฟันเดิมของคุณเอาไว้ใช้งานได้ต่อไปได้ โดยดีกว่าการถอนฟันแล้วเลือกวิธีการใส่ฟันปลอม เพราะฟันที่รักษารากแล้วจะมีคุณสมบัติเหมือนฟันในปากซี่อื่นๆ คือ มีเบ้ากระดูกยึดให้ฟันแน่นมั่นคงแข็งแรง และให้ความรู้สึกที่ดีกว่าการใส่ฟันปลอม สามารถใช้งานได้ สะดวกเป็นธรรมชาติ

ทำไมต้องรักษารากฟัน

เมื่อทันตแพทย์ตรวจแล้วพบว่ายังสามารถทำการรักษารากฟัน ได้โดยที่ไม่ต้องถอนออก ก็จะแนะนำให้คุณ รักษารากฟัน ซึ่งประโยชน์ของขบวนการรักษารากฟันจะช่วยให้การเคี้ยวกลับมามีประสิทธิภาพที่ดีเหมือนเคย สามารถใช้ฟันกัดอาหารได้อย่างปกติ ลักษณะรูปร่างของฟันกลับมาสวยงาม ที่ สำคัญที่สุดคือปัญหาสุขภาพฟันไม่ลุกลามป้องกันไม่ให้ฟันซี่อื่นถูกทำร้ายไปด้วย

สาเหตุหลักการเกิดปัญหาที่รากฟัน

  • ฟันผุมาก
  • มีปัญหาโรคเหงือก
  • ฟันได้รับการกระทบกระแทก จนทำให้ฟันแตกหัก จนถึงโพรงประสาทฟัน
  • นอนกัดฟันรุนแรง
  • มีพฤติกรรมการเคี้ยวที่ค่อนข้างรุนแรง การกัดเค้นฟัน หรือใช้ฟันรุนแรง นับเป็นการไปรบกวนโพรงประสาทฟัน ส่งผลให้ฟันมีอาการร้าว จนกระทั่งเชื้อโรคสามารถแทรกซึมข้าไปในส่วนของโพรงประสาทฟันได้

ลักษณะอาการเกิดปัญหารากฟัน

เมื่อเกิดปัญหาผิดปกติที่รากฟัน มักมีสัญญาณเตือนด้วยอาการ เจ็บเวลา เคี้ยวหรือกัดอาหาร มีอาการเสียวฟันเมื่อดื่มเครื่องดื่มร้อนหรือเย็น รู้สึกฟันหลวมหรือโยก ที่เป็นเช่นนี้ เพราะรากฟันถือเป็นส่วนหนึ่งในอวัยวะในช่องปากที่สำคัญมาก ฟันแต่ละซี่จะประกอบไปด้วยโพรงประสาทฟัน (Pulp chamber) ซึ่งเป็นส่วนที่รับสัญญาณความรู้สึก เมื่อโพรงประสาทฟันหรือ คลองรากฟันเกิดการติดเชื้อ จะทำฟันซี่นั้นตายไป จึงเกิดอาการแสดงดังที่กล่าวมาข้างต้น รวมไปถึง ในบางรายอาจมีอาการหน้าบวม มีน้ำหนองไหลจากฟันที่ติดเชื้อ รากฟันเป็น หนอง หรือมีตุ่มหนองขึ้นบนเหงือก สีของฟันคล้ำลง ได้อีกด้วย

หนองปลายรากฟัน เกิดได้อย่างไร

อาการสัญญาณเตือนรุนแรง ที่บ่งบอกได้ว่ารากฟันของคุณกำลังมีปัญหาหนัก คือ เกิดหนองที่ปลายรากฟัน ซึ่งอาจมีหนองไหลออกมาให้เห็น หรือพบได้ จากการ x-ray เห็นเป็นลักษณะเงาดำที่ปลายรากฟัน นั้นหมายถึงว่ามีเชื้อโรคลุกลาม ไปจนกระทั่งทำลายส่วนของเนื้อเยื่อทั้งโพรงประสาทฟันแล้ว ซึ่งลักษณะนี้ทันตแพทย์จะไม่สามารถ อุดฟัน ได้อย่างเดียว ต้องรักษารากฟันให้เรียบร้อยเสียก่อน ทั้งนี้การพบหนองที่ปลายรากฟันเกิดขึ้นได้จากการที่คุณปล่อยให้เกิดฟัน ผุเป็นระยะเวลานาน โดยที่ไม่ได้รับการรักษา จนมีการอักเสบของเนื้อเยื่อบริเวณ รอบปลายรากฟัน ซึ่งจะมีอาการปวดฟันเวลาเคี้ยว หรือเมื่อฟันกระทบกัน บางรา ยอาจมีอาการบวมหรือตุ่มหนองบริเวณเหงือกหรือเพดานเกิดขึ้นร่วมด้วย

ถ้าไม่ปวดฟัน เพราะอะไรถึงต้องรักษารากฟัน

บางครั้งปัญหารากฟันอักเสบ จากภาวะฟันผุ หรือแตก มานาน อาจไม่ส่งผลให้เกิดอา การเจ็บปวด หรืออาจเคยปวดแต่หายแล้ว แต่ว่าการดำเนินของโรคก็ยังคงอยู่ มีโอกาสที่จะกลับมาปวดอีกครั้งหรือมีการติดเชื้อมากกว่าเดิม เพราะรากฟันเองยังไม่ได้รับการแก้ปัญหา ซึ่งเมื่อทำการ x-ray และพบว่ามีหนองในรากฟัน ดังนั้นเมื่อตรวจพบควรรีบทำ การรักษารากฟันทันที เพื่อลดการสูญเสียฟัน

การรักษารากฟันแบ่งเป็น 2 ประเภท

  1. การรักษารากฟันด้วยวิธีปกติ
    ทันตแพทย์ตรวจวัดความยาวของ คลองรากฟัน โดยการถ่ายเอกซเรย์แล้วจะใช้ File ขนาดเล็กเพื่อรักษารากฟัน และทำความสะอาดภายในคลองรากฟันเพื่อขจัดเนื้อเยื่อที่มีปัญหาและแบคทีเรีย
    หลังจากนั้นจะใช้วัสดุอุดคลองรากฟัน ( Gutta percha ) โดยที่ฟันจะไม่ถูกอุดอย่างถาวรจนกว่าจะขจัดจนปลอดเชื้อในโพรงประสาทและคลองรากฟัน
  2. การรักษารากฟันด้วยวิธีการผ่าตัดปลายรากฟัน
    วิธีการนี้จะเลือกใช้ เมื่อวิธีที่หนึ่งล้มเหลว โดยจะทำการผ่าตัดเข้าไปที่ตำแหน่งปลายรากฟันที่เป็น หนองทำการตัดปลายรากฟันออกบางส่วน ซึ่งปัจจุบันมีกล้องจุลศัลยกรรมที่ช่วย เพิ่มกำลังขยายในการมองเห็นคลองรากฟันที่มีขนาดเล็กให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
    ทันตแพทย์สามารถมองเห็นได้ชัดเจนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รวมถึงเพิ่ม ผลสำเร็จในการรักษารากฟันให้สูงขึ้นด้วยหลังจากนั้นทำการอุดวัสดุเข้าไปใน ส่วนปลายรากฟันที่ทำความสะอาดไว้
    โดยวัสดุนี้จะไม่เป็นพิษต่อเนื้อเยื่อ และทำให้เกิดการหายของเนื้อเยื่อรอบปลายรากฟันขึ้น

การเตรียมตัวก่อนรักษารากฟัน

  1. ก่อนอื่นเมื่อพบทันตแพทย์ และได้รับการวินิฉัยว่ามีฟันผุทะลุโพรงประสาทต้องรักษารากฟัน คุณหมอจะส่งคุณหมอที่ทำครอบฟันว่าซี่ดังกล่าวสามารถทำครอบได้หรือไม่ เพราะถ้าทำครอบฟันไม่ได้ การรักษารากฟันอาจไม่มีความหมาย
  2. โดยทั่วไปจะใช้ 2 ครั้งในการรักษารากฟัน 
  • ครั้งแรก คือ การทำความสะอาดโพรงประสาทฟันและรากฟัน โดยการขยายขนาดของบริเวณคลองรากฟัน รวมถึงใช้น้ำยาทำความสะอาดเพื่อกำจัดเชื้อโรค
  • ครั้งที่สอง คือ เมือโพรงประสาทฟันและรากฟันสะอาดปราศจากเชื้อโรค คุณหมอจะอุดคลองรากฟัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และถ้าเป็นไปได้คุณหมอจะทำเดือยฟัน (core build up) เพื่อเป็นแกนกลางในการเสริมสร้างความแข็งแรงของการทำครอบฟันต่อไป

วิธีการรักษารากฟัน

  1. การรักษารากฟัน ทันตแพทย์จะทำร่วมกับการฉีดยาชา จะใช้แผ่นยางบางๆ เพื่อแยกฟัน (Rubber dam) ที่มีปัญหาออกจากฟันอื่น
  2. หลังจากนั้นทันตแพทย์จะเอาฟันผุโดยเอาส่วนที่เสียหายออกกำจัดเนื้อฟันที่อักเสบหรือติดเชื้อออกจนถึงส่วนโพรงประสาทฟัน
  3. ทำความสะอาดรากฟัน และใส่ยาลง ไปในคลองรากฟัน
  4. ปิดรากฟันด้วยวัสดุอุดชั่วคราว เพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ
อย่างไรก็ตาม วิธีการรักษารากฟัน ในบางรายไม่ได้จบในครั้งเดียวจำเป็นต้องใช้เวลาหลายครั้งในการทำความสะอาด รวม ถึงเปลี่ยนยาในคลองรากฟันเพื่อฆ่าเชื้อจนกว่าการติดเชื้อ หรือการอักเสบจะหายเป็นปกติ
เมื่อพบว่า ไม่เกิดการอักเสบแล้ว ทันตแพทย์ก็จะอุดปิดคลองรากฟัน และใส่เดือยฟัน เพื่อเป็นแกนเสริมสร้างความแข็งแรง เพื่อการทำ ครอบฟัน ซึ่งเป็นขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้อาจต้องขึ้นกับสภาพเนื้อฟันที่เหลืออยู่มาร่วมพิจารณา

อาการหลังรักษารากฟัน

หลังจากรักษารากฟันเสร็จใหม่ ๆ คนไข้จะมี อาการหลังรักษารากฟัน คือ เจ็บ ในช่วง 2-3 วันแรก อาจร่วมกับการบวมของเหงือกด้วยแต่อาการเจ็บจะค่อยๆ ทุเลาและจางหายไปเอง สามารถบรรเทาได้ด้วยยาระงับปวดทั่วไป อีกกรณีคือมีอาการปวดหลังการรักษา ซึ่งเกิดจากคลองรากฟันยังไม่สะอาดแล้วอุด ขยายคลอง รากฟันไม่หมดหรือฟันแตก การรักษาอาจต้องมีการรื้อและรักษาใหม่

การดูแลรักษาหลังการรักษารากฟัน

ภายหลังการรักษารากฟัน ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำในการฏิบัติตัว แนะนำว่าควรปฎิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของตัวท่านเอง ในการรักษารากฟันที่มีประสิทธิภาพและสามารถใช้ งานได้ยืนยาว ดังนี้
  1. ไม่ควรรับประทานอาหารในทันที่ ควรงดรับประทานอาหารจนกว่าอาการ ชาที่ใช้จะหมดไป ป้องกันการกัดลิ้นหรือกระพุ้งแก้ม
  2. ควรระมัดระวังในการใช้งานซี่ฟันที่รักษารากฟัน งดเคี้ยวหรือกัดอาหา รด้วยฟันซี่ที่รักษารากฟัน อาจทำให้ฟันแตกหรือหักได้
  3. ในกรณีที่วัสดุอุดฟันชั่วคราวเกิดหลุด ให้กลับมาพบทันตแพทย์ทันที เพื่อ ป้องกันโรคในช่องปากที่สามารถเขาสู่ภายในคลองรากฟันได้
  4. ควรมาตามนัดแพทย์ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงถอนฟันซี่นั้นออกในอนาคต หากละเลย
bottom of page