top of page

ฟอกสีฟัน

(Tooth Whitening)

การฟอกสีฟัน คือ การเปลี่ยนแปลงสีฟันที่ขุ่นหมองให้กลับมาขาวสดใส ด้วยการใช้สาร (Hydrogen peroxide) ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์สำหรับการฟอกสีฟัน ไปทำปฎิกิริยากับสารเคลือบบนผิวฟันหรือในเนื้อฟันให้แตกตัวออก และดูขาวขึ้น เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีสีฟันเหลือง หรือขุ่นหมองโดยสาเหตุเกิดมาจากคราบฟันหรือเป็นสีฟันตามธรรมชาติ

สีฟัน.jpg

ฟอกสีฟันเหมาะกับใคร

การฟอกสีฟันหรือฟอกฟันขาว เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องสีฟัน เช่น ฟันมีสีดำ คล้ำ สีเหลือง เนื้อฟันไม่ขาวใส รวมถึงทุกที่ใส่ใจเรื่องของรอยยิ้มและบุคลิก ตามเช็คลิสต์ ดังนี้

  • ผู้ที่อยู่ในวัยทำงาน ประกอบอาชีพที่ต้องใช้รอยยิ้ม พูดคุย และติดต่อประสานงานกับผู้อื่น
  • ผู้ที่ชอบดื่มชา กาแฟ และแอลกอฮอล์เป็นประจำ
  • ผู้ที่มีพฤติกรรมสูบบุหรี่จัด
  • ผู้ที่มีเนื้อฟันสีเหลืองจากยาปฏิชีวนะ

ฟอกสีฟัน ช่วยให้ฟันขาวขึ้นจริงไหม ?

การฟอกสีฟันช่วยให้ฟันขาวขึ้นได้จริง โดยผลลัพธ์จากการฟอกสีฟันจะอยู่ได้ยาวนานประมาณ 6 เดือน-1 ปี ขึ้นอยู่กับระดับสีที่เป็นอยู่ของฟัน น้ำยาฟอกสีฟัน รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ และการดูแลการรักษาสุขภาพช่องปากของแต่ละบุคคล อย่างการเลือกรับประทานอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงพฤติกรรมการสูบบุหรี่ ซึ่งจะสามารถรักษาสีฟันให้ขาวได้นานยิ่งขึ้น

ฟอกสีฟันขาวขึ้นมากแค่ไหน ?

ระดับความขาวของฟัน โดยทั่วไปจะขาวขึ้นประมาณ 3-5 เฉดซึ่งจะขาวขึ้นมากน้อยแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสีเดิมของฟันและปฏิกิริยาตอบสนองของต่อน้ำยาฟอกสีฟัน

ประเภทของการฟอกสีฟัน

1. In-office Power Bleaching การฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ที่คลินิก จะใช้น้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูง ร่วมกับ Cool Light LED หรือเลเซอร์ ซึ่งวิธีนี้นิยมมากเพราะปลอดภัย ทุกขั้นตอนอยู่ในความดูแลของทันตแพทย์ ใช้ระยะเวลาไม่นาน และเห็นผลทันทีหลังทำ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละบุคคล
2. At-home Bleaching การฟอกสีฟันที่สามารถทำได้เองที่บ้าน แต่จะต้องมาพบทันตแพทย์ก่อนในครั้งแรกครับเพื่อพิมพ์ปาก ทำถาดฟอกสีฟันฟอกสีฟันเฉพาะบุคคล รับน้ำยาฟอกสีฟันและคำแนะนำในการใช้ ข้อดีคือสะดวกสบาย
ราคาถูกว่า แต่ใช้ระเวลานานและต้องมีวินัยหมั่นทำบ่อย ๆ จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดี

ขั้นตอนการฟอกสีฟัน

1. เตรียมผิวฟัน
  •  ก่อน ฟอกสีฟัน ทันตแพทย์จะวัดระดับสีฟันก่อนการรักษา
  • เตรียมผิวฟัน ได้แก่ การขูดหินปูน (ในกรณีที่มีหินปูน) และขัดฟัน
  •  ใส่ที่กั้นริมฝีปาก และใส่ที่ปกป้องเหงือก
2. ฟอกสีฟัน
ทันตแพทย์จะทำการทาน้ำยาฟอกสีฟัน และใช้เครื่อง Cool light LED โดยใช้เวลาประมาณ  30-45 นาที

การดูแลหลังฟอกสีฟัน ให้ฟันขาวนานยิ่งขึ้น

หลังจากฟอกสีฟันเรียบร้อยแล้ว ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลรักษาฟัน รวมถึงเรื่องของอาหารการกินและเครื่องดื่ม ซึ่งบางประเภทกินได้และบางประเภทกินไม่ได้ในช่วง 48-72 ชั่วโมง เพื่อให้มีฟันขาวสดใสไปนาน ๆ
 1. ควรหลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม เช่น กาแฟ น้ำอัดลม ชา ไวน์ เพราะจะทำให้สีฟันค่อย ๆ เข้มขึ้น หากจำเป็น     ต้องดื่ม ควรบ้วนปากหลังดื่มเสร็จทุกครั้ง

  2. งดสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่ทำให้เกิดคราบบนผิวฟัน หากทำความสะอาดได้ไม่ดี จะทำให้ฟันกลับมาเหลืองเร็วกว่าคน     ที่ไม่สูบบหรี่
  3. แปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟัน ทำความสะอาดฟันอย่างถูกต้องและเป็นประจำ จะทำให้เศษอาหารและคราบจากเครื่องดื่ม     ติดบนผิวฟันได้ยาก
  4. ตรวจสุขภาพฟันกับทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน เพื่อสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี

ใครไม่ควรฟอกสีฟัน

การฟอกสีฟันหรือฟอกฟันขาวอาจไม่ได้ผลเสมอไปครับ และไม่ใช่ทุกคนที่สามารถจะฟอกสีฟันได้ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในภาวะต่อไปนี้
   1. หญิงกำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
  2. มีอายุน้อยกว่า 16 ปี เพราะโพรงประสาทมีการเจริญเติบโต ทำให้การฟอกฟันมีการระคายเคือง
  3. ผู้ที่ปัญหาหรือผู้ป่วยโรคเหงือก
  4. ผู้ที่มีปัญหาเสียวฟัน ฟันผุ หรืออุดฟัน ควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนฟอกสีฟัน
  5. ผู้ที่มีปัญหาอื่น ๆ ในช่องปาก ควรพบทันตแพทย์ก่อนทำการฟอกสีฟัน
bottom of page